คลิกลงทะเบียน
ลองใช้ดูน่ะค่ะ มีประโยชน์มากค่ะ สำหรับใช้ดูแนวโน้ม
ประโยชน์และการใช้งาน Bollinger bands
ใช้วัดความผันผวนของตลาด ใช้เป็นแนวรับและแนวต้าน ใช้หาแนวโน้มของราคา ใช้ดู Overbought, Oversold (ซื้อหรือขายมากเกินไป) ใช้เทรดด้วยกลยุทธ์แบบ Breakouts 1. ใช้วัดความผันผวนของตลาด Bollinger Bands สามารถบอกเราให้ทราบว่า สถานะของตลาดเป็นยังไง กำลังคึกคัก หรืออยู่ในช่วงเงียบซบเซา โดยให้ดูจากเส้น คือถ้าเส้นมีลักษณะ บีบ ชิดเข้าหากัน แบบแคบๆ นั้นหมายถึงตลาดกำลังเงียบเชียบหรืออยู่ในช่วงซบเซาอยู่ แต่ถ้าเส้นแยกออกจากกัน แล้วอยู่ห่างๆ กันเมื่อไหร่ นั้นหมายถึง ตลาดมีความคึกคัก บ่งบอกว่ามีนักลงทุน กำลังมีการซื้อ-ขาย กันเป็นจำนวนมาก ตัวอย่าง use-Bollinger-for-see-The-volatility-of-the-market 2. ใช้เป็นแนวรับและแนวต้าน Bollinger Bands ที่ประกอบกันด้วย 3 เส้นนั้น จะเคลื่อนที่ไปตามแนวโน้มของราคา โดยมีหน้าที่แตกต่างกันดังนี้ เส้นบน หรือ Upper Band = ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน เส้นกลาง หรือ Middle Band = ทำหน้าที่เป็นทั้งแนวรับและแนวต้าน และเส้นล่าง หรือ Lower Band = ทำหน้าที่เป็นแนวรับ ตัวอย่าง use-Bollinger-to-be-Support-and-Resistance-levels 3.ใช้หาแนวโน้มของราคา เราสามารถนำ Bollinger Bands มาใช้เพื่อหาแนวโน้มของราคา ดังนี้ แนวโน้มขาขึ้น = ลักษณะของราคาจะอยู่บริเวณเส้นขอบบน และไม่ค่อยจะทะลุเส้นขอบกลางลงไปได้ แนวโน้มขาลง = ลักษณะของราคาจะอยู่บริเวณเส้นขอบล่าง และไม่ค่อยจะทะลุเส้นขอบกลางขึ้นไป แนวโน้มของราคาที่อยู่ในรูปแบบ Sideway = เมื่อราคาเพิ่มขึ้นจนถึงเส้นขอบบน แล้วเกิดการกลับตัวเปลี่ยนจากขึ้นเป็นลง นั้นหมายถึงแนวโน้มราคากำลังจะลง (เป็นสัญญาณขาย) ในทางกลับกัน ราคาที่ลดลงจนชนเส้นกรอบด้านล่าง จากนั้นเกิดการกลับตัว เปลี่ยนจากลงเป็นขึ้น นั้นหมายถึง แนวโน้มราคากำลังจะขึ้น (เป็นสัญญาณซื้อ) ตัวอย่าง ใช้ Bollinger Bands หาแนวโน้มขาขึ้น Bollinger-Band-Indicate-uptrend ตัวอย่าง ใช้ Bollinger Bands หาแนวโน้มขาลง Bollinger-Band-Indicate-Downtrend ตัวอย่าง แนวโน้มของราคาที่อยู่ในรูปแบบ Sideways Bollinger-Band-Indicate-Sideway 4.ใช้ดู Overbought, Oversold (ซื้อหรือขายมากเกินไป) กรณีใช้ดูการซื้อหรือขายที่มากเกินไปนั้น ก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก เพียงแค่ดูจากเส้น ก็เข้าใจได้โดยง่าย วิธีการดูหรือแปลความหมายคือ เส้นขอบบน (Upper Band) หมายถึงการซื้อที่มากเกินไป เส้นขอบล่าง (Lower Band) หมายถึงการขายที่มากเกินไป ฉะนั้นเส้นขอบกลาง (Middle Band) ก็คือการซื้อหรืขายที่อยู่ในระดับปานกลางหรือเท่าเทียมกัน นั้นเอง ตัวอย่าง Bollinger-Band-Indicate-Overbought-Oversold 5.ใช้เทรดด้วยกลยุทธ์แบบ Breakouts การเทรดด้วยกลยุทธ์แบบ Breakouts คือการเข้าเทรดทันที เมื่อราคาเกิดการทะลุแนวต้าน หรือแนวรับ โดย Bollinger bands สามารถนำมาใช้ได้ในทุกสภาวะของตลาด ไม่ว่าจะช่วง ขาขึ้น ขาลง หรือ ไซต์เวย์ แต่การนำไปใช้ในตลาดที่แตกต่างกัน ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนบางกลยุทธ์หรือเทคนิค เพื่อให้เข้ากับสถานะการณ์ของตลาดในปัจจุบัน การใช้งานนั้นก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก เพียงแค่ดูราคาที่มันทะลุ แล้วก็เข้าเทรดตาม แนวโน้ม หรือภาวะของตลาดที่กำลังเป็นอยู่ ตัวอย่าง ใช้เทรดด้วยกลยุทธ์แบบ Breakouts Bollinger-Band-Indicate-Breakoutst-ok ตามตัวอย่างจะเห็นว่า เมื่อตลาดเงียบ ความผันผวนจะต่ำทำให้เส้น Bollinger bands บีบตัวเข้าหากัน จากการที่บีบตัวเข้าหากันมากๆ นี่ ถือเป็นโอกาสที่ดี ในการหาจุดทะลุแนวรับหรือแนวต้าน (Breakouts) ในการเข้าเทรด ตามกลยุทธ์ป ในการใช้ Bollinger bands นั้น ถ้าจะให้ดี ควรใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์ตัว อื่นๆ ประกอบด้วย เช่น Commodity Channel Index (CCI) , Relativa Strength Index (Rsi) , Oscillators (OCT) เพราะบางจังหวะ หรือบางสถานะการณ์ เพื่อความมั่นใจยิ่งขึ้น ควรมีอินดิเคเตอร์ ตามที่ยกตัวอย่าง มาช่วยยืนยันอีกที การซื้อขายตัวเลือกไบนารีเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการซื้อขายเครื่องมือทางการเงิน พ่อค้าต้องเฝ้าดูกราฟของราคาสินทรัพย์และคาดการณ์ว่าจะเลื่อนขึ้นหรือลงในช่วงท้ายของช่วงเวลาที่กำหนด ทุกครั้งที่คุณคลิก 'CALL' (ราคาจะเพิ่มขึ้น) หรือ 'PUT' (ราคาจะลดลง) คุณกำลังทำข้อตกลงไว้ หากการคาดการณ์ของคุณถูกต้องคุณจะได้รับเงินลงทุนคืนและสามารถทำกำไรได้ถึง 90%
General Risk Warning: The financial products offered by the company carry a high level of risk and can result in the loss of all your funds. You should never invest money that you cannot afford to lose.
Try to see it Very useful Look for trends
การซื้อขายตัวเลือกไบนารีเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการซื้อขายเครื่องมือทางการเงิน
พ่อค้าต้องเฝ้าดูกราฟของราคาสินทรัพย์และคาดการณ์ว่าจะเลื่อนขึ้นหรือลงในช่วงท้ายของช่วงเวลาที่กำหนด
ทุกครั้งที่คุณคลิก 'CALL' (ราคาจะเพิ่มขึ้น) หรือ 'PUT' (ราคาจะลดลง)
คุณกำลังทำข้อตกลงไว้
หากการคาดการณ์ของคุณถูกต้องคุณจะได้รับเงินลงทุนคืนและสามารถทำกำไรได้ถึง 90%
General Risk Warning:
The financial products offered by the company
carry a high level of risk and can result in the loss of all your funds. You
should never invest money that you cannot afford to lose.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น